ฉีดโบ ปรับหน้าเรียวลดริ้วรอย ฉีดจุดไหนได้บ้าง อันตรายไหม ?
ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนกังวล ทั้งรอยย่นหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้วและตีนกา ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอายุ และปัญหากรามใหญ่หรือต้องการยกกระชับให้หน้าดูเรียวขึ้น ฉีดโบ ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และมีบริเวณใดบ้างที่ไม่ควรฉีด หากฉีดผิดจุดอันตรายไหม มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง โมเดลล่ารวบรวมคำตอบไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ
ฉีดโบ คืออะไร ?
สารลดริ้วรอย ที่สกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวไม่เกิดรอยพับ ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าและทำให้ผิวเต่งตึง
บริเวณที่มักจะเกิดริ้วรอย
- หน้าผาก
- ระหว่างคิ้ว
- หางตา (ตีนกา)
- สันจมูก
- ร่องแก้ม
- มุมปาก
ฉีดโบ ดีอย่างไร ?
- ลดริ้วรอย เริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน หลังฉีด
- ปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือน
- ฟื้นฟูผิว ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ฉีดโบ จุดไหนได้บ้าง ?
- ริ้วรอยรอบดวงตา หางตา หรือรอยตีนกา
- ริ้วรอยร่องแก้ม
- รอยย่นหน้าผาก
- รอยระหว่างคิ้ว
- กราม
- กรอบหน้า
- รักแร้ ช่วยลดเหงื่อ
- ต้นแขน น่องขา ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ
รีวิวฉีดโบลดกราม ลดริ้วรอย ที่ Modella Clinic
ลดกราม
ลดริ้วรอย หน้าผาก
ลดริ้วรอย หางตา
สนใจปรับหน้าเรียว ลดริ้วรอย
ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ฉีดโบกี่วันเห็นผล ?
ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นประมาณ 1-2 เดือน การฉีดเมโสแฟตร่วมด้วย จะช่วยปรับหน้าเรียวมากยิ่งขึ้น
ฉีดโบอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ประมาณ 4-12 เดือน ขึ้นอยู่กับโบแต่ละยี่ห้อ หากมีการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากหรือเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น การแสดงออกทางใบหน้า การเคี้ยวอาหารที่เหนียว แข็ง จะทำให้ริ้วรอยและกรามเกิดขึ้นอีกครั้ง สามารถป้องกันได้โดยการฉีดโบซ้ำ
Tip: ไม่ควรฉีดโบมากกว่าปีละ 2 ครั้ง และควรเว้นระยะการฉีดห่างกันอย่างน้อย 4-6 เดือนขึ้นไป