ทำไมใบหน้าถึงหย่อนคล้อย ?

ใบหน้าหย่อนคล้อย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผิวของเราเริ่มมีอายุมากขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากการที่ผิวขาดความกระชับและยืดหยุ่น ผิวจึงดูหย่อนยานและไม่เต่งตึงเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินที่ช่วยพยุงโครงสร้างผิวเริ่มลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง จุดที่สังเกตได้ชัดคือ กรอบหน้าบริเวณกรามและคางดูหย่อนคล้อย เนื้อบริเวณแก้มหายไป ใบหน้าหย่อนยาน และเกิดริ้วรอยตามส่วนต่างๆ เช่น รอบดวงตา ร่องแก้ม ใต้คาง และบริเวณคอ

ทำไมใบหน้าถึงหย่อนคล้อย ?

สาเหตุใดบ้าง ที่ทำให้หน้าหย่อยคล้อย ?

  • อายุที่เพิ่มขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ การลดลงของโปรตีนเหล่านี้ทำให้ผิวหน้าเริ่มสูญเสียความกระชับและดูหย่อนคล้อย
  • การสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง ชั้นไขมันใต้ผิวช่วยเติมเต็มและคงรูปทรงของใบหน้า เมื่อชั้นไขมันลดลง ผิวหนังจะไม่มีที่ยึดเกาะ ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดรอยเหี่ยวย่น
  • แรงโน้มถ่วงของโลก มีผลต่อการหย่อนคล้อยของผิว เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหนังที่สูญเสียความกระชับจะเริ่มคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วง ส่งผลให้หน้าดูหย่อนยาน
  • แสงแดดและมลภาวะ การโดนแสงแดดมากเกินไปจะทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย ผิวจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และการสัมผัสกับมลภาวะต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง ควัน ทำให้ผิวเกิดรอยดำและริ้วรอย รวมทั้งยังเพิ่มการอักเสบของสิวที่รุนแรงขึ้นได้อีกด้วย
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือการรับประทานอาหารที่ขาดสารอาหาร ล้วนมีผลให้ผิวดูโทรมและหย่อนคล้อยเร็วขึ้น
  • การทำหัตถการหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม หัตถการบางประเภท เช่น การฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ในปริมาณมากเกินไป การร้อยไหมที่ไม่ถูกต้อง หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผิวดูหย่อนคล้อยลงเร็วกว่าปกติ

ยกกระชับหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัด คืออะไร ?

   แม้ว่าความหย่อนคล้อยในแต่ละช่วงวัยจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากเรามีการดูแลผิวเป็นอย่างดี ก็จะช่วยชะลอการเกิดปัญหาผิวเหล่านี้ออกไปได้ ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้า ชะลอความหย่อนคล้อย ทำให้หน้าเรียว เฟิร์ม กรอบหน้าชัด และดูอ่อนเยาว์ โดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น จะมีวิธีใดบ้างไปติดตามกันเลย

7 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด

7 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด

1. HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)

 HIFU เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ความเข้มสูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ทุกชั้นผิว เนื่องจากมีหัวยิงหลากหลายความลึก ช่วยยกกระชับและลดริ้วรอยโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด เช่น ลำคอ แขน ขา ก้น สะโพก ท้อง  เหมาะกับการยกกระชับและลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าและลำคอ >> อ่านบทความเกี่ยวกับ HIFU ยกกระชับ ปรับหน้าเรียว ได้จริงไหม ? 

ข้อดี

  • ไม่ต้องใช้เข็มหรือทำการผ่าตัด 
  • เห็นผลในทันที ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน 

ข้อเสีย

  • อาจรู้สึกเจ็บขณะทำ 
  • ผลลัพธ์อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากหรืออายุมาก

2. Thermage

Thermage

 Thermage เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) เพื่อกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมทั้งสลายไขมันสะสมส่วนเกิน ช่วยให้ผิวแน่น กระชับขึ้นเรื่อยๆ เหมาะสำหรับการลดริ้วรอย ยกกระชับหน้าและลดไขมันสะสม เห็นผลชัดเจนประมาณ 2-3 เดือน 

ข้ออดี

  • ไม่ต้องใช้เข็มหรือทำการผ่าตัด 
  • เห็นผลทันที ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี

ข้อเสีย

  • ราคาสูง 
  • รู้สึกเจ็บขณะทำ 
  • ผลลัพธ์อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากหรืออายุมาก

3. Ulthera

Ulthera

Ulthera เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ที่เจาะลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ช่วยยกกระชับใบหน้าและลำคอ ทำให้หน้าดูกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น ความพิเศษคือมีหน้าจอ Visualization แบบ Real-time ช่วยให้แพทย์ประมวลผลและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น  เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับบริเวณใบหน้า คาง และลำคอ เห็นผลชัดเจนประมาณ 3-6 เดือน

ข้อดี

  • เห็นผลทันที ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี

ข้อเสีย:

  • ราคาสูง 
  • รู้สึกเจ็บขณะทำ 
  • ผลลัพธ์อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากหรืออายุมาก

4. Filler (ฟิลเลอร์)

Filler (ฟิลเลอร์)

Filler หรือการฉีดสารเติมเต็ม ช่วยยกกระชับผิวและเติมร่องลึก ทำให้ผิวดูอวบอิ่มและกระชับในทันที โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปทดแทนคอลลาเจน อีลาสติน และไขมันบนใบหน้าที่มีการยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยจุดที่สามารถฉีดยกหน้าได้ เช่น ใต้ตา ขมับ โหนกแก้ม ร่องแก้ม แก้มส้ม

ข้อดี

  • เติมเต็มร่องลึกและยกกระชับผิวได้ทันที 
  • ผลลัพธ์เห็นชัดเจนหลังทำ 
  • ผลลัพธ์อยู่ได้เพียง 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ 

ข้อเสีย:

  • ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง

💡Tip : ปริมาณที่ฉีดจะขึ้นอยู่กับว่าต้องการแก้ปัญหาที่จุดไหน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน

5. B-tox (ฉีดโบ)

B-tox (ฉีดโบ)

B-tox ช่วยยกกระชับใบหน้าและลดริ้วรอย โดยเรียกวิธีนี้ว่า โบลิฟกรอบหน้า ทำให้เห็นกรอบหน้าชัดและเรียวมากขึ้น หรือฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อใต้คางและลำคอที่ทำให้เกิดการดึงผิวหน้าลงมา เหมาะสำหรับการยกกระชับบริเวณกรอบหน้าและคอ เลือกBo-tox ยี่ห้อไหนดี

ข้อดี

  • ราคาค่อนข้างย่อมเยาเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน 

ข้อเสีย

  • ต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ หากฉีดมากเกินไปหน้าดูแข็งตึง ไม่เป็นธรรมชาติ

6. Thread Lift (ร้อยไหม)

Thread Lift (ร้อยไหม)

 Thread Lift เทคนิคการยกกระชับผิวด้วยการใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงสอดลงไปใต้ชั้นผิว โดยเงี่ยงจะเกี่ยวและยึดกับเนื้อเยื่อ จากนั้นจึงดึงเส้นไหมขึ้นเพื่อให้ผิวถูกยกตามไปด้วย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามแนวไหมภายใน 1 เดือน ทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับผิว ยกคิ้ว หางตา และปรับรูปทรงจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด ไหมร้อยหน้า มีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร?

ข้อดี: 

  • ยกกระชับใบหน้าได้ทันที 
  • เส้นไหมละลายได้เองใน 6-18 เดือน ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน 

ข้อเสีย: 

  • อาจเกิดรอยช้ำหรือบวมหลังทำ 
  • ต้องใช้เวลาฟื้นตัวเล็กน้อย 
  • หากทำโดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่สมบูรณ์

7. Morpheus8

Morpheus8

Morpheus8 หรือ Subdermal Fractional microneedling Radio Frequency (RF) technology  นวัตกรรมยกกระชับผิว ที่ช่วยให้ผิวดูกระชับ อิ่มฟู ปรับผิวให้เนียนเรียบ ลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยผสมผสาน 2 เทคโนโลยีไว้ด้วยกัน ได้แก่ ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF ควบคู่กับ Fractional Microneedle ที่ใช้เข็มขนาดเล็ก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว ช่วยให้ผิวหน้าและลำคอดูกระชับขึ้น ผลลัพธ์อาจเห็นชัดเจนในช่วง 3 เดือนหลังทำ

ข้อดี

  • เห็นผลทันที ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 1 ปี
  • เหมาะกับยกกระชับใบหน้าและลำคอ

ข้อเสีย

  • มีค่าใช้จ่ายสูง 
  • อาจรู้สึกเจ็บขณะทำ มีการฟื้นตัวเล็กน้อย

ยกกระชับหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัด ดีจริงไหม ?

การยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากผลลัพธ์ที่ดีแล้ว ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น ทำให้สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ ส่วนวิธีที่เหมาะสมที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาผิว งบประมาณ และผลลัพธ์ที่แต่ละคนต้องการ

เครื่องยกกระชับหน้า ได้ผลจริงไหม ?

     วิธีการยกกระชับหน้า ไม่ว่าจะเป็น HIFU, Thermage, Ulthera, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์, ร้อยไหม และ Morpheus8 ในปัจจุบันแต่ละวิธีได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี และเทคนิคต่างๆให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และเข้ารับบริการกับแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ย่อมสามารถแก้ปัญหาผิวไม่กระชับได้อย่างตรงจุด และปลอดภัยอย่างแน่นอน

สรุป

     ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่ออายุมากขึ้นหรือจากการใช้ชีวิตประจำวัน แต่นวัตกรรมที่ทันสมัยช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีการเลือกขึ้นอยู่กับปัญหาผิว งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ต้องการ สำหรับผู้ที่สนใจ โมเดลล่าคลินิกมีบริการโปรแกรมยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ครบครัน ได้มาตรฐาน และดูแลโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ทุกท่านค่ะ